Music Challenge 7 วัน 7 อัลบั้ม

เมื่อวานแชร์คลิปพี่ศิลปินคนนึงเล่า 7 Albums ที่ในดวงใจที่ตัวเองชื่นชอบ ไอ้ Nattapong ก็เลยบอกให้มาทำบ้างครับ แต่ขอเลือก 5 ละกัน เพื่อให้ง่ายด้วย วันเดียวจบ

Music Challenge 7 วัน 7 อัลบั้ม

เมื่อวานแชร์คลิปพี่ศิลปินคนนึงเล่า 7 Albums ที่ในดวงใจที่ตัวเองชื่นชอบ ไอ้ Nattapong ก็เลยบอกให้มาทำบ้างครับ แต่ขอเลือก 5 ละกัน เพื่อให้ง่ายด้วย วันเดียวจบ

ใครมาอ่านถือว่าเป็นการแชร์ Playlist กันไปในตัว หาเพลงฟังช่วงนี้ครับ

1. Continuum - John Mayer (2006)

ถ้าจะบอกว่า คนดนตรีของจริงระดับต้องแกะตามทุกเพลง กับ การใช้ชีวิตไฮโซ กวนๆ ปากหมาแนว Celebrity ไม่น่าจะไปด้วยกันได้ เฮีย John คือ Living Proof ที่มีอยู่บนโลกใบนี้ และ Continuum เป็นทั้ง Masterpiece และกระดูกสันหลังของคอนเสริตเฮียเขามาตลอด ก่อนที่หลังจากนั้นจะเริ่มท่องโลกเพลง Country(Album: Born and Raised / Paradise Valley) หรือกลับมา Pop Rock สนุกๆ (Album: The Search for Everything)

ถ้าไล่ Timeline ของ John Mayer ตอนแรกจะพบว่าเป็นนักดนตรี Pop ที่กวาดรางวัล Grammy มาตลอดใน 2 อัลบั้มแรก (เพลงดังอย่าง Your body is a wonderland, Daughter) ก่อนจะเริ่มเผยธาตุแท้เปลี่ยนแนวมาเล่นกีตาร์ไฟฟ้าหนักๆ แนว Blues จากแรงบันดาลใจที่ชื่นชอบ Stevie Ray Vaughan ออกมาเป็น Side Project John Mayer Trio ที่ร่วมกับมือเบสอย่าง Pino Palladino และมือกลองอย่าง Steve Jordan

วันดีคืนดี ประสบการณ์มันเริ่มลงตัว พอกลับมาทำอัลบั้มหลักเลยได้ออกมาเป็นงาน Contemporary ที่ครบรสและเป็น Signature ของเฮียไปเลยในตัว เพลงดังอย่าง Gravity, Slow Dancing in a burning room เป็นเพลงที่มือกีตาร์สาย R&B, Blues, Pop ต้องแกะกันอย่างเต็มใจ

เพลงไม่ดังที่อยากให้ฟัง: Belief, Vultures(อันนี้ The Parkinson บ้านเราเอาไป Cover ดีมาก), I Don't Trust Myself (With Loving You), ที่เหลือทั้งอัลบั้มนั่นแหล่ะ

2. Lean into It - Mr. Big (1991)

วง Hard Rock ที่ทำให้ตกหลุมรักวงดนตรีแนว Hair Band ยุค 80-90 จนไปคอนเสริตมา 2 รอบละ ที่จริงวงนี้ต้องจัดอยู่ในกลุ่ม Supergroup (เหมือน Supercar) ไว้เลยนะเพราะ Line-up มือกีตาร์ Paul Gilber, มือเบส Billy Sheehan นี่ระดับพระกาฬ พอประกอบกับเสียงร้องแหบสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Eric Martin เข้าไป ซ้ำบางเพลงยังมีท่อน Chorus โคตรมหาเพราะ นี่แม่ง Peak แล้ว เพลงในอัลบั้มนี่เข้าใจว่าสมัยนั้น (ผมยังไม่เกิด) น่าจะดังเกิน Genre ไปเยอะมาก ทั้ง To be with you, Just Take My Heart ที่เป็นเพลง Pop ฟังง่าย รวมไปถึงเพลง Rock เท่ๆ แกะตามไม่ได้อย่าง Daddy, Brother, Lover, Little Boy (The Electric Drill Song)

แต่ที่ชอบสุดสำหรับผมจะเป็น Green-Tinted Sixties Mind ที่นอกจากเพลงจะเพราะแล้ว ยังมี Intro ที่ทำให้ต้องไปฝึกเทคนิค Tapping บนกีตาร์ไฟฟ้าครั้งแรกเลย สมัยนั้นผมฟังวงนี้ ตอน Bodyslam ออกอัลบั้มที่มี อกหัก ออก พี่ยอด Tapping ลูก Intro แต่บอกเลยไอ้ Green-tinted นี่จะเปิดโลกไปอีกขั้น (หาดู Tab และ Tutorial ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=IhDUDfyZ1GU)

เอออีกเรื่องเวลาฟังวงนี้ ไม่รู้ Focus ดนตรีชิ้นไหน มันดูรายละเอียดเดือดไปหมด

เพลงไม่ดังที่อยากให้ฟัง: CDFF-Lucky This Time, Alive and Kickin

3. Pornograffitti - Extreme (1990)

เป็นอัลบั้มที่สมัยปี 2018-2019 หมกหมุ่นอยู่กับมันมาตลอด จำได้วง Extreme สมัยเด็กกว่านี้ 4-5 ปี ในอัลบั้มนี้นอกจากเพลงดัง Popๆ อย่าง More Than Words, Hole Hearted แล้วก็ไม่ค่อยฟังมันเลยเพราะรู้สึกว่าหนักไป เข้าไม่ถึง

พอมีโอกาสบังเอิญปล่อยอัลบั้มมันวิ่งไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเข้าใจความยิ่งใหญ่ของมือกีตาร์อย่าง Nuno Bettencourt ละ ถึงขั้น Brian May แห่งวง Queen ต้องเอา Solo ของ Get The Funk Out มาเปิดฟัง แล้วอธิบายความสวยงามของมันลง Youtube เลย

ถ้าอยากได้ Funk Rock สนุกๆ ภาคกีตาร์แทบไม่มีอะไรที่เล่นแบบธรรมดาเลย ผมว่าวงนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวัง (ภาคกีตาร์ใน Hair Band ด้วยกัน ผมชอบ Nuno มากกว่า Paul ของ Mr.Big อีก) การ Arrangement, Composition ทุกอย่างมันลงตัวระดับ Masterpiece อีกแล้ว (วันนี้ใช้คำนี้ซ้ำเยอะแน่ๆ 555) เพลงอย่าง Decadence Dance, Money (in God We Trust), He-Man Woman Hater มี Riff ที่เป็นเอกลักษณ์ ฟังสนุกมากๆ

เพลงไม่ดังที่อยากให้ฟัง: เข้าใจว่า More Than Words มันดังทั้งโลกไปไกลมาก ฉะนั้นที่เหลือนับเพลงไม่ดังหมดเลยได้มะ Decadence Dance Get The Funk Out, Money, Suzi, He-Man Woman Hater, Song for Love

4. ดัม-มะ-ชา-ติ - Bodyslam (2014)

ชอบโดนเพื่อนด่า ว่าร้อง Bodyslam ไม่ค่อยได้ มึงโตมายังไงเนี่ย เออ ฟังน้อยจริง ไม่รู้เพราะอะไร กลายเป็นว่าพอโตมาแล้วไปฟัง มันก็ไม่อินกับ คนที่ถูกรัก, สักวันฉันจะดีพอ อ่ะ จนมาเจออัลบั้ม ดัม-มะ-ชา-ติ ฟังปุ้ป บอกเลยไม่ดังแน่พี่ตูน 55555

แต่ในเชิงดนตรี มันคือการโตเต็มวัยเลย นอกจากนี้คอนเสริต ปรากฎการณ์ ดัมมะชาติ ที่ดำเนินไปกลางคันแล้วต้องยกเลิก ภาพ แสง สี เสียง ของคอนเสริตนี่ถึงตอนนี้ยังไม่เห็นคอนเสริตไทยที่ไหนทำสู้ได้เลย ภาพยังติดตาการเปิดคอนเสริตด้วยผ้าผืนใหญ่ๆแล้วสาดแสงเงาพี่ตูนไป พร้อมจังหวะกลองของเพลง ครึ่งหลับ ครึ่งตื่น

ในอัลบั้มมีเพลงน่าสนใจเยอะมาก พูดถึงเพลงไม่ดังเลยละกัน รักอยู่ข้างเธอที่ Feat. กับ ปุ๊ อัญชลี ซึ่งเป็นคนที่เคยไปคอนเสริตกับแม่ แล้วไม่รู้แม่กรี้ดอะไรกับคนนี้นักหนา เออพอฟังในอัลบั้มโคตรเท่เลยเหวย ขึ้นมาก็ Laid Back นิดๆ อย่างมีสไตล์ เสียงร้องต่ำหาได้ยากในนักร้องหญิงสมัยนี้

ช่างมันเถอะเหงา เพลงที่น้าแอ๊ด คาราบาวแต่งให้พี่ตูน กีตาร์ตัวเดียวกับเสียงพี่ตูนที่ส่งอารมณ์ได้ถึงๆ อ่อมี Solo Sax เหงาๆแถมให้อีก

ความฝันกับจักรวาล เพลงที่ภาค Orchestra จัดเต็ม แบบยังโยกหัวตามได้

เสียดายพอมันไม่ดัง ก็จะไม่ค่อยได้มีโอกาสฟังเพลงพวกนี้ในคอนเสริต Bodyslam เท่าไรแล้ว

5. Slippery When Wet - Bon Jovi (1986)

Bon Jovi เป็นหนึ่งในวงร๊อคที่ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยเก่งมากนะ วงอะไรจะอยู่ยงคงกระพัน 30-40 ปีอัพ ได้ ปี 2000 มีเพลงดังทั่วโลกอย่าง It's My Life แต่หารู้ไม่ว่าที่จริงจุด Peak สุดน่าจะอยู่ในช่วงยุค 80's อัลบั้มนี้นี่แหล่ะ

เพลงดังอย่าง "You Give Love a Bad Name", "Livin' on a Prayer" ที่แต่งและร้องกันไม่ห่วงตอนแก่บ้างเลยว่ามันจะร้องไม่ถึง (แล้วก็งานเข้าจริง) Bon Jovi นอกจากมีนักร้องนำเท่ๆอย่าง Jon แล้ว ที่สำคัญคือมือกีตาร์คู่บุญอย่าง Richie Sambora นอกจากภาคดนตรีที่ทำได้ดีแล้ว ยังมีเสียงร้องประสานที่มีเสน่ห์มากๆ อย่างในเพลง I'll be there for you (อัลบั้มอื่น) อีก

เพลงสองเพลงนี่มีความเป็น Iconic ยุค 80 อยู่นะถ้าเสื้อผ้าหน้าผม เสียง Synth, เสียงกีตาร์, เสียงร้องแหบสูง ฟังแล้วอยาก Time Machine กลับไปได้

เพลงไม่ดังที่อยากให้ฟัง: ไม่มีอ่ะ ชอบเพลงดัง

Albums เข้ารอบอื่นๆ

Ark - L'arc en ciel (1999)

Random Access Memories - Daft Punk (2013)

Ah Via Musicom - Eric Johnson (1990)

Sense of Sound - Boy Peacemaker (2009)

Unplugged - Eric Claption (1992)

Bring it Back - ETC (2012)

The Lift - Groove Rider (2007)

เออ ดูไปดูมาสละเวลาชีวิตและกำลังทรัพย์ไปกับฟังเพลงเยอะมากนะเนี่ย